ความเห็นเพิ่มเติมของ ดร.สิระ สุทธิคำ
Step#1: เรียนในห้องเรียนภาษาอังกฤษ การที่มีผู้เชี่ยวชาญช่วย “สอน”, “นำ”, และ “กระตุ้น” อย่างเป็นระบบ
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษในลักษณะดังกล่าวเรารู้ว่ามันได้ผลตั้งแต่การเปิด The Academy ในสมัยกรีกโบราณแล้วนะครับ (The Academy คือโรงเรียนที่เป็นเรื่องเป็นราวที่จัดทำโดยชาวกรีกโบราณ) หากแต่ปัจจุบันการเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้อง เรียนเท่านั้น หากอาจจะหมายถึงการเรียนพิเศษ, short course, workshop, lab, สัมมนา, และ อบรม ต่างๆ
Step #2: ฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ผมจะพูดกับนักเรียนที่ทำคะแนน TOEFL ได้สูงอยู่สม่ำเสมอว่าการมาเรียนภาษาอังกฤษกับผมอาจจะช่วยนักเรียนได้เพียง 10-20% เท่านั้นที่เหลืออีก 80% เกิดจากความสามารถของผู้เรียนเอง, ความตั้งใจ, มั่นฝึกฝนภาษาอังกฤษ (รวมทั้งโชคด้วยนะครับ 555)
เท่าที่ผมสังเกตดูนักเรียนที่
- มีแผนการเรียนภาษาอังกฤษที่ชัดเจน
- มีความตั้งใจในการเข้าเรียนภาษาอังกฤษ,
- คิดในเชิงวิเคราะห์,
- รวมทั้งไม่เครียดเกินไปกับการสอบภาษาอังกฤษ
มักจะเป็นนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และแน่นอนครับได้คะแนน TOEFL ที่สูง
Step #3: เราต้องหาโอกาสที่ใช้งานภาษาอังกฤษเรื่องที่เรียนในชีวิตจริง
… ยกตัวอย่างเช่นหากเราต้องการท่องและจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ได้ เราก็ไม่ควรท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง และควรต้องรู้ว่ามันจะใช้ในประโยคภาษาอังกฤษได้อย่างไร ใช้ Google search ก็ได้ และหากสามารถนำคำภาษาอังกฤษเหล่านั้นมาใช้ได้ในการพูดหรืองานเขียนภาษาอังกฤษ (แล้วถ้าเป็นในวันนั้นได้ยิ่งดีใหญ่) จะทำให้เราสามารถจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเหล่านั้นได้เป็นเวลานาน ลองดูได้ครับ